สรุปจบในบทเดียว! เทียบทุกจุด Oligio, Oligio X, XERFและ Thermage เหมาะกับใครที่สุด

เปรียบเทียบ Oligio, Oligio X, XERF และ Thermage เลือกเครื่องไหนให้เหมาะกับปัญหาผิวของคุณ?

ในยุคที่เทคโนโลยีความงามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง “โปรแกรมยกกระชับผิวหน้า” ก็มีการอัปเกรดรุ่นใหม่ออกมาแทบทุกปี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องที่เน้นยกผิวชั้นตื้น กระตุ้นคอลลาเจน หรือแม้แต่เทคโนโลยีที่สามารถลงลึกถึงชั้นโครงสร้างผิว (SMAS) เพื่อให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงการยกหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

ปัจจุบันเครื่องยอดนิยมที่ได้รับความสนใจมาก ได้แก่ Oligio, Oligio X, XERF และ Thermage ซึ่งแต่ละโปรแกรมต่างมีจุดเด่นเฉพาะตัว เหมาะกับปัญหาผิวและความต้องการที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่าแต่ละเครื่องช่วยเรื่องอะไร? แตกต่างกันอย่างไร? และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณมากที่สุด

โปรแกรม Oligio ช่วยเรื่องอะไร? เหมาะกับใคร?

Oligio คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่น Monopolar Radiofrequency (RF) ที่ถูกพัฒนาให้ลงพลังงานได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) เพื่อกระตุ้นการหดตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ตามธรรมชาติ ผลลัพธ์คือผิวแน่นขึ้น ยกกระชับขึ้น และเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

พลังงานความร้อนจาก Oligio จะช่วย “ฟื้นฟูผิวจากภายใน” ให้เส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อยกลับมาจัดเรียงตัวใหม่ ส่งผลให้เห็นการยกกระชับตั้งแต่หลังทำทันทีบางส่วน และค่อยๆ ดีขึ้นต่อเนื่องใน 1–3 เดือน

จุดเด่นของโปรแกรม Oligio

• ยกกระชับผิวหน้า แก้ม คอ ลดความหย่อนคล้อยเล็กน้อย–ปานกลาง
• กระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า
• ช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้น
• ใช้เวลาทำเพียง 30–45 นาที กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที

โปรแกรม Oligio X คืออะไร แตกต่างจาก Oligio ยังไง? และจุดเด่นคืออะไร?

โปรแกรม Oligio X คือรุ่นพัฒนาใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยี Monopolar Radiofrequency (RF) ที่ต่อยอดจาก เครื่อง Oligio รุ่นดั้งเดิม โดยเพิ่มระบบพลังงานแบบ Dual Mode (G+X Mode) ซึ่งสามารถยิงพลังงานได้ทั้ง “ตื้นและลึก” ภายในเครื่องเดียว เพื่อยกกระชับผิวได้ครอบคลุมหลายชั้นของผิว (ทั้งผิวตื้นและผิวลึก) ดังนั้นผลที่ได้จะเป็นการยกกระชับแบบสามมิติ เหมาะกับคนที่ต้องการผลชัดขึ้นกว่ารุ่นเดิมในครั้งเดียวหรือการรักษาที่มีความเฉพาะจุดมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่างโปรแกรม Oligio และ Oligio X

Oligio (รุ่นเดิม) มุ่งยกกระชับในชั้นผิวระดับกลางถึงลึก เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนและลดความหย่อนคล้อยทั่วไป

Oligio X (รุ่นใหม่) เพิ่มพลังงานแบบ Dual-depth สามารถลงได้ทั้งชั้นตื้นและชั้นลึก ทำให้ผลยกกระชับมีมิติมากขึ้น ผิวดูแน่นและเฟิร์มทั่วใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ

พูดง่าย ๆ คือ Oligio X ครอบคลุมกว่า เห็นผลชัดกว่า และให้ความสบายขณะทำมากกว่าเดิม

จุดเด่นของโปรแกรม Oligio X

• เทคโนโลยี Dual Mode (G+X) ให้พลังงานได้ 2 ระดับลึก–ตื้น ครอบคลุมทุกชั้นผิว
• กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินได้อย่างทั่วถึง ยกกระชับแบบ “3 มิติ”
• ความร้อนสม่ำเสมอและแม่นยำ ลดความเสี่ยงของผิวไหม้
• เจ็บน้อยลง เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี RF ยุคก่อน
• เห็นผลการยกกระชับตั้งแต่ครั้งแรก และดีขึ้นต่อเนื่องใน 1–3 เดือน

XERF คลื่นความถี่คู่ (Dual-frequency) เน้นโครงสร้างชั้นลึก (SMAS)

XERF (เซิร์ฟ) คือเทคโนโลยี ยกกระชับผิวด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Dual-frequency Monopolar RF) รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ “ยกหน้าในระดับโครงสร้างลึก” โดยพลังงานจาก XERF สามารถส่งลงถึงชั้น SMAS ชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ได้ผลการยกกระชับที่ชัดขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก

เทคโนโลยี Dual-frequency ของ XERF จะส่งพลังงานได้ 2 ความถี่พร้อมกัน คือ

• ความถี่ตื้น เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและปรับผิวเรียบแน่น
• ความถี่ลึก เพื่อยกกระชับโครงสร้างชั้นลึก ลดเหนียง กระชับกรอบหน้า

ผลลัพธ์คือ “ผิวยกจากภายใน” แบบไม่ต้องผ่าตัด แต่ได้โครงหน้าเฟิร์มชัดและดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นของ XERF คืออะไร?

• ส่งพลังงานลงได้ลึกถึงชั้น SMAS ให้ผลการยกกระชับใกล้เคียงการยกหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ใช้เทคโนโลยี Dual-frequency RF ที่กระจายความร้อนสม่ำเสมอ ไม่แสบร้อนผิว
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ได้ทั้งชั้นตื้นและชั้นลึก
• เหมาะกับการแก้ปัญหา “เหนียง แก้มล่างตก กรอบหน้าไม่ชัด”
• ทำเพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นผลเบื้องต้น และดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 1–3 เดือน

เปรียบเทียบ XERF และ Oligio X ต่างกันอย่างไร?

จุดเปรียบเทียบ	Oligio X	XERF
เทคโนโลยี	Monopolar RF (Dual Mode – G+X)	Dual-frequency Monopolar RF
ระดับความลึก	ครอบคลุมผิวตื้น–ลึกในชั้นหนังแท้	ลงได้ลึกถึงชั้น SMAS (ระดับโครงสร้าง)
ผลลัพธ์หลัก	ยกกระชับผิวทั่วหน้า ฟื้นฟูคอลลาเจน	ยกโครงหน้า ลดเหนียง กรอบหน้าชัด
ระดับความชัดเจนของผล	ปานกลาง–ชัด	ชัดเจนมาก เหมาะกับความหย่อนคล้อยระดับมาก
ความรู้สึกขณะทำ	อุ่นๆ สบาย เจ็บน้อย	รู้สึกร้อนลึกกว่าเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับสบาย

โปรแกรม Thermage คืออะไร? 

Thermage (เทอร์มาจ) คือเครื่องยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) รุ่นต้นแบบจากสหรัฐอเมริกา ที่ถือเป็น “มาตรฐานต้นฉบับ” ของเทคโนโลยี RF ทั่วโลก จุดเด่นของ Thermage คือสามารถปล่อยพลังงานความร้อนอย่างต่อเนื่องลงลึกถึงชั้นคอลลาเจนใต้ผิว เพื่อกระตุ้นให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวทันที และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว

ผลลัพธ์คือผิวแน่นขึ้น เรียบเนียนขึ้น รูขุมขนเล็กลง และใบหน้ายกกระชับโดยไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนานและมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับชัดเจน

Thermage มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรุ่น Thermage CPT เป็น Thermage FLX ซึ่งรุ่นใหม่จะมีระบบปล่อยความร้อนแม่นยำขึ้น เย็นผิวขณะทำ ลดความรู้สึกเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งพลังงานในแต่ละช็อต

จุดเด่นของโปรแกรม Thermage

• แบรนด์ต้นฉบับของเทคโนโลยี RF ยกกระชับที่มีงานวิจัยรองรับมากที่สุด
• เห็นผลตั้งแต่หลังทำทันทีบางส่วน และดีขึ้นต่อเนื่องใน 2-6 เดือน
• กระตุ้นคอลลาเจนทั่วใบหน้า ช่วยให้ผิวแน่น เรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
• เหมาะกับทั้งใบหน้า รอบดวงตา คอ และลำตัวบางส่วน
• ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานประมาณ 12-18 เดือน

โปรแกรม Oligio / Oligio X / XERF / Thermage แตกต่างกันอย่างไร?

คุณสมบัติ	Oligio	Oligio X	XERF	Thermage (FLX)
เทคโนโลยีหลัก	Monopolar RF	Monopolar RF (Dual Mode – G+X)	Dual-frequency Monopolar RF	Monopolar RF (Bulk Heating)
ระดับความลึกของพลังงาน	ชั้นหนังแท้ (Dermis)	ครอบคลุมผิวชั้นตื้น–ลึก	ลึกถึงชั้น SMAS	กระจายพลังงานทั่วชั้นคอลลาเจน
จุดเด่นหลัก	ยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจน	ยกกระชับครบทุกชั้น ผิวแน่นขึ้นทั่วหน้า	ยกโครงหน้า ลดเหนียง	ผิวแน่น เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ทั่วใบหน้า
เหมาะกับปัญหา	ผิวเริ่มหย่อนคล้อย เล็กน้อย	ผิวเริ่มคล้อย เห็นร่องแก้ม ต้องการผลทั่งหน้า	ผิวคล้อยมาก กรอบหน้าไม่ชัด ต้องการยกโครงหน้า	ต้องการผลทั่วหน้า เรียบเนียน และอยู่ได้นาน
ความรู้สึกขณะทำ	อุ่นๆ เจ็บเล็กน้อย	อุ่นสบาย เจ็บน้อยลง	รู้สึกลึกกว่าเล็กน้อย	รุ่นใหม่ (FLX) เจ็บน้อยลงมาก
เวลาพักฟื้น	ไม่มี	ไม่มี	ไม่มี	ไม่มี
ระยะเวลาเห็นผล	เห็นผลบางส่วนทันที ดีขึ้นต่อใน 1–3 เดือน	เห็นผลเร็วขึ้นในบางเคส ดีขึ้นต่อเนื่อง	เห็นผลยกชัดใน 2–3 เดือน	ดีขึ้นต่อเนื่อง 2–6 เดือน
ระยะเวลาคงผลลัพธ์	6–12 เดือน	9–12 เดือน	12 เดือนขึ้นไป	12–18 เดือน
จำนวนครั้งที่ทำต่อปี	1–2 ครั้ง	1 ครั้ง (บางเคสเติมปีละครั้ง)	1 ครั้ง	1 ครั้ง

คำแนะนำในการเลือก โปรแกรมยกกระชับไหนที่เหมาะกับคุณ?

เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่น Radio Frequency (RF) มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นและเจ็บน้อยลง แต่ละเครื่อง เช่น Oligio, Oligio X, XERF และ Thermage มีระดับพลังงานและจุดเด่นต่างกัน ดังนั้น การเลือกจึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้…

1. ระดับความหย่อนคล้อยของผิว

• ผิวเริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อย → Oligio
• ผิวเริ่มคล้อย เห็นร่องแก้ม ต้องการผลทั่วหน้า → Oligio X
• ผิวคล้อยมาก กรอบหน้าไม่ชัด ต้องการยกโครงหน้า → XERF
• ต้องการผลทั่วหน้า เรียบเนียน และอยู่ได้นาน → Thermage

2. งบประมาณและระยะเวลาคงผลลัพธ์

เครื่องที่ใช้พลังงานลึกและเทคโนโลยีใหม่กว่า จะให้ผลที่อยู่ได้นานกว่า แต่ก็มีราคาสูงกว่า

3. ความสบายขณะทำ

สำหรับผู้ที่กลัวเจ็บหรือเพิ่งเริ่มทำการยกกระชับหน้า ควรเริ่มจากเครื่องที่ให้ความรู้สึกอุ่นสบาย เช่น Oligio หรือ Oligio X ก่อน

4. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำทุกครั้ง

เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน ปลอดภัย และเหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลมากที่สุด

การดูแลหลังทำ เพื่อให้ผิวฟื้นไวและผลลัพธ์อยู่ได้นาน

1. หลีกเลี่ยงความร้อนจัด 24-48 ชั่วโมงแรก เช่น ซาวน่า การอบไอน้ำ หรือออกกำลังกายหนัก เพื่อให้ผิวสงบก่อน

2. เน้นการให้ความชุ่มชื้น ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือมาส์กหน้า เพื่อช่วยให้คอลลาเจนสร้างตัวได้ดี

3. ทาครีมกันแดดทุกวัน ป้องกันการทำร้ายของรังสี UV ซึ่งอาจกระตุ้นการเสื่อมของคอลลาเจน

4. งดการนวดหน้าแรงๆ หรือเลเซอร์อื่นทันทีหลังทำ ควรรออย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการอื่น

5. ดื่มน้ำมากๆ และนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูคอลลาเจนตามธรรมชาติได้เต็มที่

ระยะเวลาเห็นผลหลังทำเครื่องยกกระชับหน้า

หนึ่งในคำถามยอดฮิตจากผู้ที่สนใจ ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด คือ “เห็นผลเมื่อไหร่?”

ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องที่เลือก เนื่องจากแต่ละเทคโนโลยีใช้พลังงานและชั้นผิวที่แตกต่างกัน

Oligio และ Oligio X

จะเริ่มรู้สึกถึงความกระชับและตึงขึ้นทันทีหลังทำประมาณ 10–20% และจะเห็นผลชัดขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 1-2 เดือน เพราะคอลลาเจนเริ่มสร้างใหม่และผิวมีการฟื้นฟูต่อเนื่อง

XERF

ด้วยพลังงาน RF ที่ลึกและกระจายความร้อนได้สม่ำเสมอ จะเห็นผลเริ่มต้นได้ตั้งแต่หลังทำทันที และชัดเจนขึ้นในช่วง 4-8 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว

Thermage FLX

จะเห็นผิวแน่นและยกขึ้นทันทีหลังทำบางส่วน และผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน เมื่อคอลลาเจนใหม่เริ่มจัดเรียงตัว อยู่ได้นานเฉลี่ย 1-2 ปี

(FAQ) คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องยกกระชับหน้า

Q: เครื่องยกกระชับไหนเจ็บน้อยที่สุด?
A: ความเจ็บขึ้นกับพลังงานและบริเวณที่ทำ เทคโนโลยีรุ่นใหม่พยายามลดความเจ็บ เช่น Oligio X ปรับโหมดเพื่อความสบาย แต่หากลงพลังงานลึก เช่น XERF อาจรู้สึกเจ็บกว่าเล็กน้อย

Q: เครื่องยกกระชับ ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

A: โดยทั่วไปการทำเครื่องยกกระชับ 1 ครั้ง จะเห็นผลชัดเจนในช่วง 1–3 เดือน และอยู่ได้นาน 1–2 ปี

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลหลังทำ เช่น การดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อน และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

Q: เครื่องยกกระชับ ทำแล้วต้องพักฟื้นไหม?

A: ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ผิวอาจรู้สึกอุ่นๆ หรือมีอาการแดงเล็กน้อยในบางราย ซึ่งจะหายภายในไม่กี่ชั่วโมง

Q: ใครไม่ควรทำเครื่องยกกระชับหน้า?

A: ผู้ที่มีโรคผิวหนังอักเสบในบริเวณที่จะทำ มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือหญิงตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยง และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

Q: ทำโปรแกรมยกกระชับหน้า ที่ Showtime Clinic แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร?

A: ที่ Showtime Clinic ทุกเคสจะได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าและยกกระชับ เลือกใช้เครื่องแท้จากบริษัทโดยตรง พร้อมเทคนิคยิงเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยสูงสุด

สรุป เทคโนโลยียกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Oligio, Oligio X, XERF หรือ Thermage แต่ละเครื่องมีจุดเด่นและระดับพลังงานที่แตกต่างกัน เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเครื่องไหนเหมาะกับปัญหาผิวของตัวเอง ทีมแพทย์ Showtime Clinic พร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียด วิเคราะห์ผิวและแนะนำเทคโนโลยีที่ “เหมาะกับคุณที่สุด” เพื่อผลลัพธ์ที่ยกกระชับ เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัยค่ะ